甲米国际医院 Krabi Nakharin International Hospita
075-626-555
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับเรา
    • เกี่ยวกับเรา
    • วิสัยทัศน์และพันธกิจ
    • รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
    • คณะผู้บริหาร
  • ข่าวสารและกิจกรรม
    • เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV)
    • 套餐和促销
    • ข่าวสารและกิจกรรม
    • บทความสุขภาพ
    • เสียงจากผู้ใช้บริการ
  • แพทย์ของเรา
    • ค้นหาแพทย์
    • นัดพบแพทย์
  • ศูนย์บริการผู้ป่วย
    • คลินิคและศูนย์ต่าง ๆ
    • ห้องพักและราคา
    • เทคโนโลยีทางการแพทย์
    • THAI INSURANCE INFORMATION
    • International Insurance Service
  • ติดต่อเรา
    • ติดต่อเรา
    • สมัครงานออนไลน์
  • ไทย: 中文
    • ภาษาไทย ภาษาไทย
    • English English
    • 中文 中文

โรคลมพิษ หรือ ผื่นลมพิษ (Urticaria, Hives)

By Marketing • 08/15/23 Tuesday • โรคลมพิษ หรือ ผื่นลมพิษ (Urticaria, Hives)已关闭评论

โรคลมพิษ หรือ ผื่นลมพิษ (Urticaria, Hives)

เป็นอาการที่เกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ทำให้มีผื่นบวมนูนแดงสีออกขาว ล้อมรอบไปด้วยผื่นสีแดง ผู้ป่วยมักจะมีอาการคันถึงคันมากในตำแหน่งที่เกิดผื่น ถ้าเป็นมากก็จะรู้สึกแสบร้อน แต่โดยทั่วไปแล้วผื่นมักจะหายไปได้เองภายใน 24 ชั่วโมงโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ลมพิษเป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย แต่จะพบได้มากที่สุดในช่วงอายุ 20-40 ปี และพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ส่วนใหญ่มักจะเป็นอยู่เพียงไม่กี่วันก็หายไปได้เอง โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนแต่อย่างใด แต่ในบางรายอาจเป็นเรื้อรังแบบเป็น ๆ หาย ๆ ก็ได้ และผู้ป่วยอาจมีประวัติเคยเป็นโรคภูมิแพ้มาก่อน หรือมีคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ร่วมด้วย จากการศึกษาพบว่า ในผู้ใหญ่ประมาณ 25% จะเคยมีอาการของลมพิษอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต แต่จะมีเพียงประมาณ 3% เท่านั้นที่เป็นลมพิษชนิดเรื้อรัง
ลมพิษสามารถแบ่งตามระยะเวลาที่เกิดได้เป็น 2 ชนิด คือ 1.ลมพิษชนิดเฉียบพลัน (Acute urticaria) คือ มีอาการผื่นลมพิษอย่างต่อเนื่องกันไม่เกิน 6 สัปดาห์ มักพบได้ในเด็กและคนไข้อายุน้อย และส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากการแพ้ เช่น การแพ้อาหาร แพ้ยา การติดเชื้อในร่างกาย แมลงสัตว์กัดต่อย ฯลฯ อย่างไรก็ตามอาจไม่พบสาเหตุได้ถึง 50% ของคนไข้ที่เป็นลมพิษเฉียบพลัน
2.ลมพิษชนิดเรื้อรัง (Chronic urticaria) คือ มีอาการผื่นลมพิษอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และเป็นต่อเนื่องติดต่อกันเกิน 6 สัปดาห์ขึ้นไป มักพบได้ในหญิงวัยกลางคน ส่วนใหญ่มักไม่พบสาเหตุหรือสิ่งกระตุ้นที่จำเพาะเหมือนลมพิษเฉียบพลัน แต่สิ่งที่สามารถกระตุ้นให้ลมพิษเรื้อรังเป็นมากขึ้น ได้แก่ ยาแอสไพริน, ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์, เพนิซิลลิน, ยาต้านเอซ

สาเหตุของลมพิษ

ลมเป็นพิษเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง เมื่อร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่แพ้ จะสร้างสารแพ้ที่เรียกว่า “ฮิสตามีน” (Histamine) ออกมาจากเซลล์ในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว มีพลาสมาหรือน้ำเลือดซึมออกมาในผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นผื่นนูนแดงตามมา โดยสาเหตุการแพ้มักมาจาก
– การแพ้อาหาร เช่น อาหารทะเล กุ้ง ปลา เนื้อสัตว์ ถั่ว ไข่ มะเขือเทศ เต้าเจี้ยว ซีอิ๊ว อาหารรสจัด ฯลฯ
– สารที่ผสมอยู่ในอาหาร เช่น ผงชูรส สีผสมอาหาร สารกันบูด ฯลฯ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
– ยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin), ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs), เพนิซิลลิน (Penicillin), อีนาลาพริล (Enalapril) ฯลฯ วัคซีน เซรุ่ม
– พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย (เช่น ยุง มด ต่อ ผึ้ง ฯลฯ) ฝุ่น ละอองเกสร
– พืชบางชนิด ขนสัตว์ ไหม นุ่น (จากที่นอนหรือหมอน)
– การสัมผัสสารเคมีหรือสารบางอย่าง เช่น เครื่องสำอาง สเปรย์ ยาฆ่าแมลง ยาง เนื้อดิบ ปลา พืชผักบางชนิด ฯลฯ
– การที่ร่างกายมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น เช่น หลังการออกกำลังกาย
– โรคติดเชื้อบางชนิด เช่น ทอนซิลอักเสบ, ฟันผุ, หูอักเสบ, หูน้ำหนวก, ไซนัสอักเสบ, ไตอักเสบ, ท้องเดิน, โรคเชื้อรา, เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัส, โรคพยาธิ ฯลฯ
– อาจเป็นลมพิษร่วมกับโรคอื่น ๆ ได้ (ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้น้อย) เช่น โรคมะเร็ง เอสแอลอี โรคของต่อมไทรอยด์ ระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง (ภูมิคุ้มกันในร่างกายไปกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารเคมี
บางชนิดออกมาที่ผิวหนัง และทำให้เกิดผื่นลมพิษขึ้น) เป็นต้น
ในรายที่เป็นลมพิษเรื้อรัง ส่วนมากจะไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ในส่วนน้อยยังอาจพบว่ามีสาเหตุ ซึ่งนอกจากสาเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งที่กล่าวมาแล้ว (โดยเฉพาะจากการใช้ยาแอสไพริน ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์) ยังอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น ๆ อีกด้วย เช่น การแพ้แสงแดด, แพ้ความร้อน, ความเย็น (เช่น น้ำแข็ง น้ำเย็น อากาศเย็น ห้องปรับอากาศ), น้ำ, เหงื่อ (เช่น เหงื่อหลังจากการออกกำลังกาย), การสั่นสะเทือน, แรงดัน แรงกด หรือการขีดข่วนที่เกิดขึ้นกับผิวหนัง, การยกน้ำหนัก, การออกกำลังกาย, โรคติดเชื้อเรื้อรัง เป็นต้น ในบางรายอาจตรวจไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน แม้ว่าแพทย์จะได้พยายามตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดแล้วก็ตาม ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ความรู้ทางการแพทย์ในปัจจุบันยังมีไม่มากที่จะอธิบายถึงสาเหตุการเกิดได้ทั้งหมด นอกจากสาเหตุที่กล่าวมาแล้ว ความเครียด ความวิตกกังวล และอารมณ์ของผู้ป่วย ยังอาจเป็นสาเหตุของลมพิษเรื้อรังได้ด้วย

ระยะเวลาที่ซิลเดนาฟิลเริ่มออกฤทธิ์อาจแตกต่างกันไป โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 30-60 นาที ประสิทธิภาพของมันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดยาและสรีรวิทยาของแต่ละบุคคล แหล่งที่มา: treasurevalleyhospice.com

ในรายที่เป็นลมพิษชนิดรุนแรง หรือที่เรียกว่า “ลมพิษยักษ์” หรือ “แองจิโออีดีมา” (Angioedema, Angioneurotic edema) ผู้ป่วยจะมีอาการบวมของเนื้อเยื่อชั้นลึก กดแล้วไม่บุ๋ม อาการบวมมักขึ้นบริเวณริมฝีปาก หนังตา หู ลิ้น หน้า มือ แขน หรือตามส่วนอื่น ๆ และอาจเป็นอยู่นานเกิน 24 ชั่วโมง (โดยทั่วไปมักจะเป็นอยู่ไม่เกิน 24 ชั่วโมงแล้วจะยุบหายไปเอง) ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บหรือแสบร้อนมากกว่ารู้สึกคัน แต่ถ้ามีอาการบวมของกล่องเสียงร่วมด้วย อาจทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก แน่นหน้าอก ตัวเขียว และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ (แต่ก็พบได้น้อยมาก) ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากการแพ้อาหารหรือยาบางชนิด

วิธีรักษาลมพิษ

พยายามหาสาเหตุที่ทำให้เกิดลมพิษ แล้วหลีกเลี่ยงหรือกำจัดเสีย (ถ้าทำได้) เช่น ถ้าแพ้ยาหรืออาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็ให้หยุดยาหรือเลิกกินอาหารชนิดนั้น ๆ ถ้าสาเหตุของลมพิษมาจากโรคพยาธิลำไส้ ก็ให้ยาถ่ายพยาธิ เป็นต้น การให้ยาแก้แพ้ (Antihistamine) ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด หลายกลุ่ม มีทั้งออกฤทธิ์สั้นและออกฤทธิ์ยาว ทั้งแบบกินแล้วง่วงและไม่ง่วงนอน การจะต้องใช้ยาตัวใดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ แต่ในรายที่หาสาเหตุไม่ได้ชัดเจน ผื่นอาจขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นลมพิษเรื้อรัง ในรายที่เป็นลมพิษเรื้อรัง ซึ่งส่วนมากจะไม่ทราบสาเหตุและไม่มีอันตรายร้ายแรง อาจเป็นอยู่แรมปี แล้วหายไปได้เอง ผู้ป่วยควรกินยาแก้แพ้เป็นประจำจนกว่าจะหาย มีเพียงผู้ป่วยส่วนน้อยเท่านั้นที่อาจมีโรคร้ายแรงร่วม อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นลมพิษเรื้อรังก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด

วิธีป้องกันลมพิษ

– หลีกเลี่ยงสิ่งต่าง ๆ ที่เคยทำให้เกิดลมพิษ (หากทราบสาเหตุ)
– ผู้ป่วยควรสังเกตตัวเองอยู่เสมอ เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดลมพิษ โดยอาจจะเป็นอาหาร ยา สารกระตุ้น หรือสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ แล้วหาทางหลีกเลี่ยง ซึ่งจะช่วยให้หายขาดได้
– พยายามหลีกเลี่ยงความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำจิตใจให้สบาย ไม่วิตกกังวล
– ควรระมัดระวังในการเรื่องของการใช้ยาต่าง ๆ เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดลมพิษได้
– ผู้ที่เป็นลมพิษบ่อยหรือมีโรคภูมิแพ้อยู่เป็นประจำ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน และยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เนื่องจากพบว่ายาเหล่านี้มีฤทธิ์ทำให้โรคภูมิแพ้กำเริบได้
– ผู้ที่เคยเป็นลมพิษควรแจ้งแพทย์ พยาบาล หรือเภสัชกร และเจ้าหน้าที่แผนกเอกซเรย์ก่อนเสมอว่าเคยเป็นลมพิษมาก่อน (การตรวจทางเอกซเรย์บางชนิดอาจมีการฉีดสี ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดลมพิษ) เพื่อหลีกเลี่ยงการกินยาหรือการตรวจที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดลมพิษได้

⏱เราเปิดให้บริการทุกวัน
✅ป่วยไม่สบายให้เราดูแล กับโรงพยาบาลกระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
Touch Of Care

Categories:
2025 年 10 月
一 二 三 四 五 六 日
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031  
« 10 月    

(ภาษาไทย) หมวดหมู่ข่าวสาร

(ภาษาไทย) ข่าวสารและกิจกรรม

  • ร่วมแสดงความยินดีเปิดคลินิกใหม่ MEDIPLUS LANTA
  • (ภาษาไทย) วิถีสุขภาพดีช่วงเทศการกินเจ
  • (ภาษาไทย) ร่วมแสดงความยินดีกับ นายแพทย์สมบูรณ์ บุญกิตติชัยพันธ์ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่
  • (ภาษาไทย) RSV พ่อแม่อย่าวางใจ ไวรัสตัวร้ายใก้ลลูกน้อย
  • (ภาษาไทย) ออกหน่วยตรวจสุขภาพ “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปานุราช”
  • (ภาษาไทย) กิจกรรมมอบวุ้นสื่อรักใน “วันแม่แห่งชาติ”
  • (ภาษาไทย) อบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น First Aid และ CPR
  • ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) คืออะไร ?
  • มอบเงินสนับสนุนกิจกรรม Krabi Media Fest 2024
  • เคล็ดลับ! ปลุกพลังการทำงานหลังหยุดยาว

KRABI INTERNATIONAL

  • 主页
  • 关于医院
  • 医疗服务与诊
  • 专科的医生
  • 包装和促销
  • 联系我们
  • COVID-19 Screening
  • นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV)
  • HEMODIALYSIS CENTER
  • THAI INSURANCE INFORMATION
  • 套餐和促销

_______________________

  • 医院的质料
  • 成功的奖物
  • 医疗技术
  • 病房和价格
  • 保险服务处

CONTACT US

Krabi Nakharin International Hospital
1 Pisanpob Rd., Paknam Sub-district, Muang Krabi District, Krabi 81000

yioMey96T www.krabinakharin.co.th

RTGnBLbTL 075 626 555

Logo-clip-art-26  facebook.com/krabinakharin

Copyright © 2015 Krabi Nakharin International Hospital | Design by KBNIH Information Technology Department