โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล  Krabi Nakharin International Hospital
075-626-555
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับเรา
    • เกี่ยวกับเรา
    • วิสัยทัศน์และพันธกิจ
    • รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
    • คณะผู้บริหาร
  • ข่าวสารและกิจกรรม
    • เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV)
    • แพ็กเกจและโปรโมชั่น
    • ข่าวสารและกิจกรรม
    • บทความสุขภาพ
    • เสียงจากผู้ใช้บริการ
  • แพทย์ของเรา
    • ค้นหาแพทย์
    • นัดพบแพทย์
  • ศูนย์บริการผู้ป่วย
    • คลินิคและศูนย์ต่าง ๆ
    • ห้องพักและราคา
    • เทคโนโลยีทางการแพทย์
    • ข้อมูลประกันไทย
    • International Insurance Service
  • ติดต่อเรา
    • ติดต่อเรา
    • สมัครงานออนไลน์
  • ไทย: ภาษาไทย
    • ภาษาไทย ภาษาไทย
    • English English
    • 中文 中文

โรคบูลีเมีย (โรคล้วงคอ)

By Webmaster • 21/07/2016 • No Comments

020160721084257

โรคบูลิเมีย เนอโวซา: กินแล้วทำให้อาเจียน (Bulimia nervosa)

โรคบูลิเมีย เนอโวซา หรือเรียกสั้นๆว่า “บูลิเมีย : Bulimia” เป็นภาวะความผิดปกติในเรื่องของการรับประทานอาหาร โดยเป็นความผิดปกติที่มีลักษณะเป็นวงจรที่เริ่มจากการรับประทานอาหารปริมาณมากในช่วงเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีแคลอรีสูง แล้วตามด้วยการพยายามกำจัดอาหารที่เพิ่งกินเข้าไปนั้น ด้วยการทำให้ตัวเองอาเจียนและ/หรือการใช้ยา เช่น ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ ยาบ้า ผู้ที่เป็น Bulimia มักจะเป็นหญิงสาวในช่วงวัยรุ่นตอนปลายถึงช่วงวัยยี่สิบต้นๆ

อาการของโรค Bulimia

– โรค Bulimia แสดงอาการได้หลายอย่างแตกต่างกันไป ทั้งด้านความคิด พฤติกรรม และอาการทางกาย ซึ่งได้แก่
– มีการกินอาหารปริมาณมากในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วตามด้วยการทำให้อาเจียน
– ไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น หรือไปเข้าห้องน้ำหลังอาหารเพื่อที่จะอาเจียนอาหารที่เพิ่งกินเข้าไป
– มีพฤติกรรมแอบกักเก็บอาหารไว้รับประทาน
– หมกมุ่นกับการอดอาหารและการออกกำลังกาย
– หลีกเลี่ยงการเข้าสังคมและอาจมีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง

ผู้ป่วยอาจมีน้ำหนักตัวขึ้นๆ ลงๆ แต่ก็มักจะมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทว่าผู้ป่วยก็มักจะยังคิดว่าตนเองมีรูปร่างอ้วน ซึ่งไม่ตรงกับสภาพร่างกายที่เป็นอยู่จริง อาการทางกายอื่น ๆ ที่พบได้ เช่น ปวดท้อง ท้องอืดแน่น อาหารไม่ย่อย ท้องผูกหรือท้องเสีย ขาดน้ำ เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เป็นลมหมดสติ

ภาวะแทรกซ้อนของโรค Bulimia

– การทำให้ตนเองอาเจียนบ่อยๆ สามารถส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายดังนี้
– กรดจากกระเพาะอาหารทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร
– ฟันผุ ฟันเปลี่ยนสี มีเหงือกอักเสบและมีกลิ่นปาก เนื่องมาจากกรดของกระเพาะอาหาร
– ใบหน้าดูเหมือนบวมฉุจากการที่ต่อมน้ำลายบวม
– ไตอาจเสียหาย มีนิ่วไต จากการสูญเสียน้ำมากเกินไป
– การทำงานของหัวใจผิดปกติ ใจสั่น จากการเสียสมดุลของเกลือแร่
– ผิวหนังแห้ง ผมร่วง
– ถ้าผู้ป่วยใช้ยาระบายเป็นประจำ อาจทำให้กล้ามเนื้อลำไส้เสียหายได้

สาเหตุของโรค Bulimia

ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนของการเกิด Bulimia โดยพบว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางร่างกาย อารมณ์ สังคม หลายประการ เช่น ความไม่มั่นใจในตัวเอง ความผิดปกติทางจิตเวช ภาวะซึมเศร้า อาการย้ำคิดย้ำทำ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบางอย่างที่อาจทำให้มีโอกาสเกิด Bulimia มากขึ้น ได้แก่ การมีประวัติความผิดปกติของการรับประทานอาหารในครอบครัว มีเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เกิดความตึงเครียดทางอารมณ์ เช่น การหย่าร้างหรือปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว การได้รับอิทธิพลจากสื่อ การมีภาวะเบื่ออาหารหรือเคยลดน้ำหนักมากๆ มาก่อน และการป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศที่แข็งตัว ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก และยาที่ดีที่สุดสำหรับการแข็งตัวสามารถช่วยในการรักษาได้ เรียนรู้เพิ่มเติมที่ https://edpored.sg/generic-tadalafil.html.

การตรวจวินิจฉัยโรค Bulimia

แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับนิสัยการรับประทานอาหาร ตรวจร่างกายเพื่อหาปัญหาที่เกิดจาก Bulimia และอาจส่งต่อผู้ป่วยเพื่อรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการรักษาความผิดปกติของการรับประทานอาหาร

การรักษา Bulimia

อาจใช้เวลาในการรักษานานเป็นเดือนหรือเป็นปี แต่ประมาณครึ่งหนึ่งถึง 3 ใน 4 ของผู้ป่วย สามารถรักษาหายเป็นปกติได้ด้วยวิธีการดูแลรักษาต่างๆ ดังต่อไปนี้

การดูแลตนเอง

การดูแลตัวเองภายใต้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการเรียนรู้เกี่ยวกับการกินเพื่อสุขภาพ การรักษาน้ำหนักเพื่อสุขภาพ การจดบันทึกการกินประจำวัน การเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนเพื่อพูดคุยกับผู้ป่วยที่มีความรู้สึกและประสบการณ์คล้ายคลึงกัน จะเป็นประโยชน์ในการช่วยให้ผู้ป่วยปรับความคิดและพฤติกรรมการกินที่ถูกต้องของตนเอง

การบำบัดด้วยการพูดคุย

การบำบัดปรับความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavior Therapy: CBT) สามารถช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีคิดที่ถูกต้องในการกินเพื่อสุขภาพ และกลับมาสร้างความมั่นใจในตนเองได้ รวมถึงการบำบัดสัมพันธภาพระหว่างบุคคล (Interpersonal therapy: IPT) ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้เป็นปกติ

การใช้ยารักษา

การใช้ยาต้านภาวะซึมเศร้าอาจสามารถลดวงจรของโรค Bulimia ได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ ส่วนความจำเป็นในการรักษาผู้ป่วย Bulimia ในโรงพยาบาลนั้น ค่อนข้างมีน้อย ยกเว้นแต่จะพบว่าผู้ป่วยมีปัญหาสุขภาพที่รุนแรงหรือมีความเสี่ยงที่ผู้ป่วยจะทำร้ายตัวเอง

Categories:บทความสุขภาพ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

October 2025
M T W T F S S
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031  
« Oct    

หมวดหมู่ข่าวสาร

  • ข่าวสารและกิจกรรม (74)
  • บทความสุขภาพ (59)

ข่าวสารและกิจกรรม

  • ร่วมแสดงความยินดีเปิดคลินิกใหม่ MEDIPLUS LANTA
  • วิถีสุขภาพดีช่วงเทศการกินเจ
  • ร่วมแสดงความยินดีกับ นายแพทย์สมบูรณ์ บุญกิตติชัยพันธ์ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่
  • RSV พ่อแม่อย่าวางใจ ไวรัสตัวร้ายใก้ลลูกน้อย
  • ออกหน่วยตรวจสุขภาพ “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปานุราช”
  • กิจกรรมมอบวุ้นสื่อรักใน “วันแม่แห่งชาติ”
  • อบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น First Aid และ CPR
  • ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) คืออะไร ?
  • มอบเงินสนับสนุนกิจกรรม Krabi Media Fest 2024
  • เคล็ดลับ! ปลุกพลังการทำงานหลังหยุดยาว

KRABI INTERNATIONAL

  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์บริการทางการแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • แพ็คเกจและโปรโมชั่น
  • ติดต่อเรา
  • COVID-19 Screening
  • นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV)
  • แผนกไตเทียม
  • ประกันชีวิตสำหรับคนไทย
  • แพ็กเกจและโปรโมชั่น

_______________________

  • ข่าวสารและกิจกรรม
  • รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
  • เทคโนโลยีทางการแพทย์
  • ห้องพักและราคา
  • ข้อมูลประกัน

CONTACT US

โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
เลขที่ 1 ถ.พิศาลภพ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ 81000

yioMey96T www.krabinakharin.co.th

RTGnBLbTL 075 626 555

Logo-clip-art-26  facebook.com/krabinakharin

Copyright © 2015 Krabi Nakharin International Hospital | Design by KBNIH Information Technology Department