By Webmaster • 21/07/2016 • No Comments
โรคบูลิเมีย เนอโวซา หรือเรียกสั้นๆว่า “บูลิเมีย : Bulimia” เป็นภาวะความผิดปกติในเรื่องของการรับประทานอาหาร โดยเป็นความผิดปกติที่มีลักษณะเป็นวงจรที่เริ่มจากการรับประทานอาหารปริมาณมากในช่วงเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีแคลอรีสูง แล้วตามด้วยการพยายามกำจัดอาหารที่เพิ่งกินเข้าไปนั้น ด้วยการทำให้ตัวเองอาเจียนและ/หรือการใช้ยา เช่น ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ ยาบ้า ผู้ที่เป็น Bulimia มักจะเป็นหญิงสาวในช่วงวัยรุ่นตอนปลายถึงช่วงวัยยี่สิบต้นๆ
อาการของโรค Bulimia
– โรค Bulimia แสดงอาการได้หลายอย่างแตกต่างกันไป ทั้งด้านความคิด พฤติกรรม และอาการทางกาย ซึ่งได้แก่
– มีการกินอาหารปริมาณมากในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วตามด้วยการทำให้อาเจียน
– ไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น หรือไปเข้าห้องน้ำหลังอาหารเพื่อที่จะอาเจียนอาหารที่เพิ่งกินเข้าไป
– มีพฤติกรรมแอบกักเก็บอาหารไว้รับประทาน
– หมกมุ่นกับการอดอาหารและการออกกำลังกาย
– หลีกเลี่ยงการเข้าสังคมและอาจมีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง
ผู้ป่วยอาจมีน้ำหนักตัวขึ้นๆ ลงๆ แต่ก็มักจะมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทว่าผู้ป่วยก็มักจะยังคิดว่าตนเองมีรูปร่างอ้วน ซึ่งไม่ตรงกับสภาพร่างกายที่เป็นอยู่จริง อาการทางกายอื่น ๆ ที่พบได้ เช่น ปวดท้อง ท้องอืดแน่น อาหารไม่ย่อย ท้องผูกหรือท้องเสีย ขาดน้ำ เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เป็นลมหมดสติ
ภาวะแทรกซ้อนของโรค Bulimia
– การทำให้ตนเองอาเจียนบ่อยๆ สามารถส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายดังนี้
– กรดจากกระเพาะอาหารทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร
– ฟันผุ ฟันเปลี่ยนสี มีเหงือกอักเสบและมีกลิ่นปาก เนื่องมาจากกรดของกระเพาะอาหาร
– ใบหน้าดูเหมือนบวมฉุจากการที่ต่อมน้ำลายบวม
– ไตอาจเสียหาย มีนิ่วไต จากการสูญเสียน้ำมากเกินไป
– การทำงานของหัวใจผิดปกติ ใจสั่น จากการเสียสมดุลของเกลือแร่
– ผิวหนังแห้ง ผมร่วง
– ถ้าผู้ป่วยใช้ยาระบายเป็นประจำ อาจทำให้กล้ามเนื้อลำไส้เสียหายได้
สาเหตุของโรค Bulimia
ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนของการเกิด Bulimia โดยพบว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางร่างกาย อารมณ์ สังคม หลายประการ เช่น ความไม่มั่นใจในตัวเอง ความผิดปกติทางจิตเวช ภาวะซึมเศร้า อาการย้ำคิดย้ำทำ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบางอย่างที่อาจทำให้มีโอกาสเกิด Bulimia มากขึ้น ได้แก่ การมีประวัติความผิดปกติของการรับประทานอาหารในครอบครัว มีเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เกิดความตึงเครียดทางอารมณ์ เช่น การหย่าร้างหรือปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว การได้รับอิทธิพลจากสื่อ การมีภาวะเบื่ออาหารหรือเคยลดน้ำหนักมากๆ มาก่อน และการป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศที่แข็งตัว ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก และยาที่ดีที่สุดสำหรับการแข็งตัวสามารถช่วยในการรักษาได้ เรียนรู้เพิ่มเติมที่ https://edpored.sg/generic-tadalafil.html.
การตรวจวินิจฉัยโรค Bulimia
แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับนิสัยการรับประทานอาหาร ตรวจร่างกายเพื่อหาปัญหาที่เกิดจาก Bulimia และอาจส่งต่อผู้ป่วยเพื่อรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการรักษาความผิดปกติของการรับประทานอาหาร
การรักษา Bulimia
อาจใช้เวลาในการรักษานานเป็นเดือนหรือเป็นปี แต่ประมาณครึ่งหนึ่งถึง 3 ใน 4 ของผู้ป่วย สามารถรักษาหายเป็นปกติได้ด้วยวิธีการดูแลรักษาต่างๆ ดังต่อไปนี้
การดูแลตนเอง
การดูแลตัวเองภายใต้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการเรียนรู้เกี่ยวกับการกินเพื่อสุขภาพ การรักษาน้ำหนักเพื่อสุขภาพ การจดบันทึกการกินประจำวัน การเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนเพื่อพูดคุยกับผู้ป่วยที่มีความรู้สึกและประสบการณ์คล้ายคลึงกัน จะเป็นประโยชน์ในการช่วยให้ผู้ป่วยปรับความคิดและพฤติกรรมการกินที่ถูกต้องของตนเอง
การบำบัดด้วยการพูดคุย
การบำบัดปรับความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavior Therapy: CBT) สามารถช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีคิดที่ถูกต้องในการกินเพื่อสุขภาพ และกลับมาสร้างความมั่นใจในตนเองได้ รวมถึงการบำบัดสัมพันธภาพระหว่างบุคคล (Interpersonal therapy: IPT) ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้เป็นปกติ
การใช้ยารักษา
การใช้ยาต้านภาวะซึมเศร้าอาจสามารถลดวงจรของโรค Bulimia ได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ ส่วนความจำเป็นในการรักษาผู้ป่วย Bulimia ในโรงพยาบาลนั้น ค่อนข้างมีน้อย ยกเว้นแต่จะพบว่าผู้ป่วยมีปัญหาสุขภาพที่รุนแรงหรือมีความเสี่ยงที่ผู้ป่วยจะทำร้ายตัวเอง
M | T | W | T | F | S | S |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
เลขที่ 1 ถ.พิศาลภพ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ 81000
www.krabinakharin.co.th
075 626 555
facebook.com/krabinakharin