By Webmaster • 27/07/2016 • No Comments
ทำไมสาวๆ จึงป่วยเป็นโรคมะเร็งมากกว่าชายหนุ่ม ในขณะที่อัตราการป่วยเป็นมะเร็งในผู้ชายช่วงอายุ 20-30 ปีมีไม่เกิน 5 เปอร์เซ็น แต่อัตราการป่วยเป็นมะเร็งของผู้หญิงในช่วงวัยเดียวกันกลับสูงมาก
โดยเป็นโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ 27 เปอร์เซ็นต์ โรคมะเร็งเต้านม 18 เปอร์เซ็นต์ และโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร 12 เปอร์เซ็นต์ ทั้งอัตราดังกล่าวยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งอายุน้อย อัตราการรอดชีวิตก็ยิ่งน้อยลงด้วย โดยอัตราการมีชีวิตรอดเกิน 5 ปี หลังป่วยเป็นมะเร็งเต้านมในผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี อยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ผู้หญิงอายุมากกว่า 35 ปีอยู่ที่ 83 เปอร์เซ็นต์ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ยิ่งอายุน้อย ภูมิคุ้มกันก็ยิ่งแข็งแรงส่งผลให้โรคมะเร็งที่เข้าไปทำลายภูมิคุ้มกันนั้นแข็งแกร่งขึ้นไปด้วย
1. มะเร็งเต้านม
ผู้หญิงอายุมากขึ้นเท่าใด โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมก็มีมากขึ้นเท่านั้น ผู้หญิงที่มีประจำเดือนครั้งแรกเมื่อายุน้อย ไม่มีมลูก หรือมีลูกคนแรกตอนอายุเกิน ๓๐ ปี ผู้หญิงที่ครอบครัวมีประวัติมีเนี้อเยี่อผิดปกติ เป็นมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งรังไข่ ทานอาหารไขมันมากและดิ่มแอลกอฮลล์จัด
คำแนะนำ
ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะน่ากลัวจนเกินไป เพราะถ้ารู้ตั้งแต่ต้น โอกาสที่จะรับมือและรักษายิ่งมีมากและทันท่วงที การตรวจมะเร็งเต้านมสามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือใช้เครื่องมือแพทย์ ซึ่งควรทำเป็นประจำ ยิ่งผู้หญิงอายุ ๔๐ ขึ้นไปยิ่งต้องตรวจบ่อยขึ้น
2. มะเร็งปากมดลูก
ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่า ๙๙.๗% เกิดจากการติดเชื้อ HPV (Human Papillomaviruses) ซึ่งเชื้อเอชพีวีชนิด ๑๖ และ ๑๘ เป็นสาเหตุสำคัญถึง ๗๐% โดยคนที่จัดว่ามีความเสี่ยงติดเชื้อได้แก่ คนที่มีคู่นอนติดเชื้อนี้ก่อน คนที่มีหรือเปลี่ยนคู่นอนหลายคน คนที่มีร่างกายอ่อนแอ เช่น ระหว่างตั้งครรภ์หรือติดเชื้อ HIV นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นอีกช้ยาฮอร์โมนมากเกินไป มีลูกคนแรกตอนอายุน้อยเกินไป มีลูกมาก คนในครอบครัวเป็นมะเร็งปากมดลูก
คำแนะนำ
มะเร็งปากมดลูกแตกต่างจากมะเร็งขนิดอื่นตรงที่มีระยะก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็งเฉลี่ยระยะเวลาประมาณ ๑๐ ปีตั้งแต่ได้รับเชื้อ ช่วยให้มีโอกาสที่ตรวจพบโรคก่อนที่จะเป็นมะเร็ง ผู้หญิงควรรับการตรวจมะเร็งปากมดลูกทุกๆ ๓-๖ ปี เป็นอย่างต่ำ ส่วนผู้หญิงมากอยุ ๓๕ ปีขึ้นไปควรตรวจทุก เพราะความเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกมีมากกว่าคนที่อายุไม่ถึง ๓๕ ปี
3.โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มักพบได้บ่อยในผู้หญิง และเป็นมะเร็งที่ทำให้คนเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของทั่วโลก ที่สำคัญมักพบในประเทศที่มีการแข่งขันกันสูง เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ซึ่งอาจเป็นเพราะชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้คนต้องรีบรับประทานอาหาร โดยไม่คำนึงถึงคุณค่าของอาหารที่บริโภคเข้าไป อีกทั้งยังไม่มีเวลาเข้าห้องน้ำขับถ่าย และยังเกิดความเครียดสะสม ส่งผลต่อลำไส้ได้ด้วย
คำแนะนำ
ควบคุมน้ำหนักอย่าปล่อยให้ตัวเองอ้วน หรือทำพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดความอ้วน และหยุดสูบบุหรี่ด้วย ทั้งนี้ มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่ออกกำลังกายและรักษาหุ่นไม่ให้อ้วนจะสามารถป้องกันโรคนี้ได้ดีขึ้นถึง 75% เลยทีเดียว
พบในผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง ๕๐-๗๐ ปี และพบในกลุ่มผู้หญิงที่อายุน้อยกว่านี้บ้างประปราย มีหลากหลายชนิดเซลล์มะเร็ง และมีโอกาสกระจายเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองได้สูง และในระยะรุนแรงอาจกระจายเข้าสู่ช่องท้อง หรือแพร่กระจายตามอวัยสะจ่างๆ ได้ พบในผู้หญิงที่พี่น้องท้องเดียวกันเป็นมะเร็งรังไข่ มีโอกาสเป็นมะเร็วระงไข่ได้สูงกว่าผู้หญิงทั่วไป ผู้หญิงที่ไม่มีบุตรก็มีอัตราเสี่ยงสูง รวมทั้งการตกไข่บ่อยหรือได้รับยาที่กระตุ้นให้เกิดการตกไข่ ซึ่งจะตรวจพบได้ในช่องท้องหรือช่องเชิงกราน อาจทำให้เกิดอาการแน่นท้องหรือปวดท้อง
คำแนะนำ
ควรตรวจภายในเป็นประจำทุกปี ตรวจวัดค่าสาร CA125 สารที่ผลิตออกมาจากเยื่อบุอวัยวะ
M | T | W | T | F | S | S |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
เลขที่ 1 ถ.พิศาลภพ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ 81000
www.krabinakharin.co.th
075 626 555
facebook.com/krabinakharin