By Webmaster • 21/06/2016 • No Comments
Actinic keratoses หรือ Solar keratoses เป็นผื่นผิวหนังที่มีลักษณะหยาบเป็นขุย ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เซลล์ผิวหนังถูกทำลายจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จึงมักพบผื่นชนิดนี้บริเวณผิวหนังที่มีการสัมผัสแสงอาทิตย์บ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านหลังของมือ แขน และใบหน้า
อาการของ Actinic keratoses
เริ่มต้นอาจพบเป็นเพียงจุดผิวหนังหยาบขรุขระขนาดเล็กในบริเวณที่มีการสัมผัสกับแสงแดดบ่อยๆ หรือรู้สึกว่าผิวหนังบริเวณนั้นเหมือนกระดาษทราย โดยไม่มีอาการอื่นๆร่วมด้วย ผื่นดังกล่าวอาจเป็นๆ หายๆ โดยไม่ต้องรักษา ส่วนใหญ่แล้ว Actinic keratoses มักจะมีขนาดประมาณ 5 ถึง 10 มิลลิเมตร เมื่อเวลาผ่านไปผื่นอาจขยายใหญ่ขึ้น (โดยอาจโตได้มากถึง 20 มิลลิเมตร) และมักจะมีสีผิวเปลี่ยนเป็นสีแดงและตกสะเก็ด หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นสีอื่นๆก็ได้ รวมถึงอาจมีการหนาตัว แข็งเหมือนหูด แต่ในบางรายผื่นกลับอ่อนตัวยุบแบนลง ในขณะที่ผิวหนังโดยรอบมักจะมีลักษณะของการถูกทำลายจากแสงอาทิตย์ เช่น เป็นรอยด่างและรอยเหี่ยวย่น ซึ่งหากคุณพบอาการเหล่านี้ก็ควรไปปรึกษาแพทย์
ภาวะแทรกซ้อนจาก Actinic keratoses
Actinic keratoses มักจะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่ถ้าเซลล์ผิวหนังได้รับความเสียหายอย่างมากจนมีลักษณะของการเจริญของเซลล์ผิดปกติก็อาจนำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนังชนิด Squamous cell carcinoma ได้ (แต่โอกาสของการเป็นมะเร็งมีน้อยเพียงร้อยละ 6 เท่านั้น) ถ้าคุณมีผื่นที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นตุ่มเล็กๆ ตกสะเก็ด ที่น่าสงสัยว่าจะเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคมะเร็งผิวหนัง ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาโดยเร็ว
สาเหตุของการเกิด Actinic keratoses
สาเหตุของ Actinic keratoses เกิดจากการสัมผัสรังสีอัลตราไวโอเล็ตจากดวงอาทิตย์ซ้ำแล้วซ้ำอีก ด้วยเหตุนี้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีแสงแดดมากก็จะมีความเสี่ยงสูงในการโรค ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่อาจบ่งบอกความเสี่ยงการเป็นโรคนี้ได้แก่
นอกจากนี้ภาวะทางพันธุกรรมบางอย่างยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด Actinic keratoses เช่น Xeroderma pigmentosum (ที่ทำให้ผิวหนังมีความไวผิดปกติต่อแสงอาทิตย์) หรือภาวะผิวเผือก (Albinism) เป็นภาวะที่ร่างกายไม่มีเม็ดสีในผิวหนัง เส้นผม และเลนส์ตา) ซึ่งเป็นภาวะผิดปกติที่พบได้น้อย
การวินิจฉัย Actinic keratoses
การวินิจฉัยสามารถทำได้โดยแพทย์จะถามเกี่ยวกับอาการ ทำการตรวจสอบผิวหนังที่ผิดปกติและดูลักษณะการกระจายของผื่นตามร่างกาย แต่ถ้าพบผื่นขนาดโตผิดปกติ มีอาการเจ็บ มีเลือดออก คุณอาจถูกส่งตัวไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง (Dermatologist) ซึ่งอาจเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ (biopsy) จากผิวหนังเพื่อตรวจดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังหรือไม่
การรักษา Actinic keratoses
วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค โดยบางครั้งก็สามารถหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา อย่างไรก็ดีผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามี Actinic keratoses ควรดูแลตนเองเป็นพิเศษในเวลาที่ต้องสัมผัสกับแสงแดด
การใช้ยาเฉพาะที่
ถ้าการรักษาด้วยยาไม่ดีขึ้น ก็อาจต้องใช้วิธีอื่นต่อไป
การบำบัดด้วยวิธีจี้เย็น (Cryotherapy)
เป็นการใช้ไนโตรเจนเหลวจี้ที่ผื่น มักจะใช้ในกรณีผื่นขนาดเล็กซึ่งไม่ตอบสนองต่อการใช้ยารักษาเฉพาะที่
การรักษาโดยใช้แสงกระตุ้น (Photodynamic therapy)
เป็นการใช้ครีมทาผื่นเพื่อทำให้ผื่นไวต่อแสง จากนั้นจึงฉายแสงให้เซลล์ผิวหนังบริเวณที่ทาครีมไว้ให้ไวต่อการกระตุ้นนั้น เกิดการอักเสบและจะถูกแทนที่ด้วยเซลล์ปกติต่อไป แต่การรักษานี้ค่อนข้างจะเจ็บปวด
ศัลยกรรม
หากลักษณะ Actinic keratoses หนาตัวเป็นก้อน แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดและส่งตรวจว่าเป็นโรคมะเร็งผิวหนังหรือไม่
การป้องกันการเกิด Actinic keratoses
การเกิด Actinic keratoses เป็นสัญญาณแสดงถึงการเสื่อมตามวัยของเซลล์ผิวหนัง ซึ่งจะถูกทำลายได้จากแสงอาทิตย์ การลดความเสี่ยงของการเกิด Actinic keratoses สามารถทำได้ตามคำแนะนำต่อไปนี้
กรณีที่คุณมี Actinic keratoses แล้ว ให้พยายามติดตามสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทุก 2-3 เดือน หากพบความผิดปกติที่น่าสงสัย เช่น ขนาดใหญ่ขึ้น เป็นแผลเจ็บ คุณควรไปปรึกษาแพทย์
M | T | W | T | F | S | S |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
เลขที่ 1 ถ.พิศาลภพ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ 81000
www.krabinakharin.co.th
075 626 555
facebook.com/krabinakharin