เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 64 สไลด์


การตรวจ CT scan คืออะไร?


การตรวจ CT scan เป็นการตรวจหาความผิดปกติอวัยวะต่างๆ ในร่างกายด้วยลำแสงเอกซ์ โดยฉายลำแสงเอกซ์ผ่านอวัยวะที่ต้องการตรวจในแนวตัดขวาง และให้คอมพิวเตอร์สร้างภาพ ภาพที่ได้จึงเป็นภาพตัดขวางส่วนที่ต้องการตรวจอย่างละเอียด โดยมีข้อบ่งชี้ของการตรวจดังนี้
1.ตรวจหาเนื้องอกในอวัยวะต่างๆ รวมทั้งตำแหน่งและขนาดของเนื้องอก
2.ตรวจหาการแพร่กระจายของเนื้องอกไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ ใกล้เคียง
3.ตรวจดูการคั่งของเลือดในสมอง ช่องท้อง และอุ้งเชิงกราน
4.ตรวจหาความผิดปกติของหลอดเลือด เช่น เส้นเลือดโป่งพอง เส้นเลือดอุดตัน เป็นต้น
5.ตรวจหาความผิดปกติของกระดูก และข้อต่อต่างๆ เช่น การหัก การหลุด และการอักเสบ เป็นต้น

ปัจจุบันการตรวจ CT scan แบ่งเป็น 4 ระบบคือ

1.ระบบสมอง ได้แก่ การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของสมอง ต่อมใต้สมอง ตา ต่อมน้ำลาย และคอ เป็นต้น ในการตรวจนี้ จะต้องฉีดสารทึบรังสีเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยให้เห็นพยาธิสภาพของโรคชัดเจนขึ้น
2.ระบบช่องท้องและทรวงอก ได้แก่ การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ภายในช่องท้องและอุ้งเชิงกราน การตรวจระบบนี้ ผู้ป่วยต้องดื่มสารทึบรังสี/น้ำเปล่า และ/หรือ สวนสารทึบรังสี/น้ำเปล่า เข้าทางทวารหนัก เพื่อแยกลำไส้ออกจากเนื้อเยื่ออื่นๆ ของช่องท้อง และ ในผู้ป่วยหญิงอาจต้องใส่ผ้าอนามัยชนิดสอดภายในช่องคลอด เพื่อแยกช่องคลอดออกจากเนื้อเยื่ออื่นๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของรังสีแพทย์ นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องฉีดสารทึบรังสีเข้าทางหลอดเลือดดำเพื่อช่วยให้เห็นพยาธิสภาพของโรคชัดเจนขึ้น
3.ระบบกระดูก กล้ามเนื้อ ข้อต่อและกระดูกสันหลัง ซึ่งมักใช้ในการวินิจฉัยโรคเนื้องอกของกล้ามเนื้อ กระดูก หรือการอักเสบของข้อต่อต่างๆ และลักษณะทางกายวิภาคของกระดูกสันหลัง โดยสามารถให้การวินิจฉัยโรคกระดูกได้ดีกว่าการตรวจเอกซเรย์ทั่วไป
4.ระบบหลอดเลือด ได้แก่ การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดแดงใหญ่ หลอดเลือดแดงไต และหลอดเลือดแดงที่ขา เป็นต้น ในการตรวจนี้จำเป็นต้องฉีดสารทึบรังสีเข้าทางหลอดเลือดดำ

ก่อนรับการตรวจ CT scan ควร

1.งดอาหารและน้ำดื่มอย่างน้อย 4 -6 ชั่วโมงก่อนการตรวจ
2.ลงชื่อในใบยินยอมให้แพทย์ทำการตรวจและฉีดสารทึบรังสี
3.ในผู้ป่วยเด็กต้องได้รับยาระงับความรู้สึกหรือดมยาสลบขณะตรวจ โดยบิดามารดาต้องลงชื่อในใบยินยอมด้วย
4.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ โรคไต โรคหัวใจและโรคเบาหวาน ควรแจ้งให้พยาบาลทราบทันที
5.ควรมีญาติมาด้วยอย่างน้อย 1 คนในวันตรวจ
6.เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องตรวจเตรียมไว้ให้ และถอดเครื่องประดับออกจากบริเวณที่ต้องการตรวจ
7.ในกรณีที่ผู้ป่วยตรวจภายในช่องท้อง ต้องดื่มสารทึบรังสีหรือน้ำเปล่า ประมาณ 3-4 แก้ว ก่อนเข้าห้องตรวจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการตรวจ

ขั้นตอนขณะรับการตรวจ CT scan

1.พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่รังสีพาผู้ป่วยเข้าห้องตรวจ และจัดท่าของผู้ป่วยให้เหมาะสมกับการตรวจ ในกรณีที่ผู้ป่วยทำการตรวจช่องท้องส่วนล่าง จะได้รับการสวนสารทึบรังสีเข้าทางทวารหนักประมาณ 100-200 ซีซี. และในผู้ป่วยหญิง อาจต้องใส่ผ้าอนามัยชนิดสอดเข้าทางช่องคลอด เพื่อแยกช่องคลอดออกจากเนื้อเยื่ออื่นๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของรังสีแพทย์
2.จะฉีดสารทึบรังสีทางหลอดเลือดดำ เพื่อให้ภาพเอกซเรย์ชัดเจน ในระหว่างการฉีดสารทึบรังสีอาจจะรู้สึกร้อนวูบวาบตามร่างกายประมาณ 1-2 นาที ซึ่งอาการนี้จะหายไปได้เอง
3.ระหว่างตรวจจะได้ยินเสียงดังจากเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ควรนอนให้นิ่งและปฏิบัติตามคำแนะนำของนักรังสีเทคนิคอย่างเคร่งครัด
4.หากมีอาการผิดปกติ เช่น แน่นหน้าอก หายใจลำบาก มีผื่นคัน คลื่นไส้อาเจียน ต้องบอกเจ้าหน้าที่หรือพยาบาลให้ทราบทันที

การปฏิบัติตัวหลังการตรวจ CT scan

ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้ตามปกติ และควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1-2 ลิตรภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยขับสารทึบรังสีออกจากร่างกายโดยเร็ว
หลังตรวจถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ผื่นขึ้น แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ต้องรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ห้องตรวจทราบทันที

การทราบผลการตรวจ

ผู้ป่วยมาตรวจตามวันที่แพทย์นัดหมาย ไม่ต้องมารับผลการตรวจที่แผนกเอกซเรย์ โดยผลการตรวจจะถูกส่งเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ผู้ตรวจสามารถเรียกดูผลการตรวจและภาพเอกซเรย์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่ห้องตรวจ

ข้อควรระวังของการตรวจด้วยเครื่อง CT scan

1.ผู้ที่มีประวัติโรคภูมิแพ้ หอบหืด มีประวัติผื่นขึ้นภายหลังรับประทานอาหารทะเล หรือมีอาการแน่น หายใจไม่ออก และผู้ที่มีประวัติแพ้สารทึบรังสี ต้องแจ้งให้พยาบาลประจำห้องตรวจทราบก่อน
2.ผู้ป่วยที่เป็นโรคไต หรือการทำงานของไตไม่ดี ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
3.สตรีที่ตั้งครรภ์
** กรณีของผู้ป่วยที่สงสัยการตั้งครรภ์ โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่หรือ รังสีแพทย์ก่อนเริ่มทำการตรวจ